สิ่งที่ชอบมากที่สุดของคลาสนี้ก็คือ การบอกว่าอยากเรียนอะไรก็ได้เรียนนี่แหละค่ะ! สมใจอยากมาก
ตอนคาบแรกที่อาจารย์ให้ตอบแบบสอบถาม(?) ตอนแรกก็นึกไม่ออก แต่ก็นึกถึงตอนดูรายการทีวีญี่ปุ่นบ่อย ๆ ก็จะมีโฆษณาคั่น เราก็สังเกตว่า โฆษณาแทบทุกตัวเลยจะมีประโยคปิดหนึ่งประโยคที่แบบ สั้น ๆ แต่สื่อความทั้งโฆษณาได้เลย รู้สึกว่ามันอิมแพคดี ก็เลยบอกไปว่าอยากเรียนเรื่องนี้ ตรงนี้ก็คือนับถืออาจารย์มาก ๆ ที่ไปค้นคว้าหาหนังสือและทำเนื้อหามาให้เรียนจนได้ ประทับใจ
ที่จริงแล้วความเหมือนจะไม่มีอะไรในประโยคสั้น ๆ ก็มีเทคนิคในการแต่งขึ้นมา แล้วกว่าจะได้แต่ละประโยคก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย กว่าจะสำเร็จก็ต้องผ่านถึง 4 ขั้นตอนทีเดียว เราจะอธิบายโดยยกตัวอย่างประกอบจากที่เราทำในห้องไปด้วย เราเลือกโปรโมทเพลงของ back number ค่า (อีกแล้วเหรอ?)
絞る→広げる→選ぶ→磨く
1. 絞る
เรียกง่าย ๆ ว่าการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย (target) จะให้ดีที่สุดก็คือกำหนดให้ละเอียดเลยว่า สินค้า โฆษณาหรือข้อความนี้ต้องการจะส่งไปถึงใคร จะให้ละเอียดก็ต้องกำหนดไปถึงเพศ อายุ หน้าที่การงาน พื้นฐานครอบครัว หูย เยอะแยะมากมาย เมื่อได้กลุ่มเป้าหมายเราก็จะไปสู่ขั้นต่อไป
ตรงนี้เรากำหนดให้กลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการจะโปรโมทเพลงเป็นเพศชายและหญิง อายุอยู่ในช่วง 10-29 ปี (10代‐20代) เป็นกลุ่มคนที่มีความรัก ไม่ว่าจะเป็นรักแบบสมหวัง ไม่สมหวังอกหักรักคุด รักเขาข้างเดียว และเป็นกลุ่มคนที่ฟังเพลงแนว Pop/Rock
2. (アイデアを)広げる
เขียนสิ่งที่อยากจะบอกออกมาให้มากที่สุด สิ่งที่อยากบอกนี่ก็คือบุคลิกภาพของสินค้าหรือสิ่งที่เราอยากจะโปรโมทใน 1 ประโยค อยากจะบอกอะไรเกี่ยวกับสินค้าให้ผู้บริโภครับทราบก็เขียนออกมาให้หมดโดยไม่จำกัดจินตนาการขอตัวเอง ไม่ต้องคิดมาก แค่ปล่อยให้ flow ออกมา
ในขั้นตอนนี้เราเขียนประโยคออกมาหลายประโยคมากแต่จะขอไปเขียนรวบกับขั้นตอนต่อไปเพราะมันเชื่อมกันค่ะ
3. 選ぶ
เอาสิ่งที่เขียนทั้งหมดมาจัดหมวดหมู่แล้วเลือกประโยคที่เรารู้สึกว่าเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายที่เรากำหนดไว้มากที่สุด ด้านล่างเป็นตารางหมวดหมู่ของประโยคที่เราเขียนค่ะ
ストーリー | 歌詞と歌の美しさ | 聞くときの気持ち |
– 主人公の思いが伝わる – 誰でも歌の内容に沈む – 実態を想像できる – 歌幸せそうなのに実はたとえの話である失恋ソング | – メロディーとともに歌詞 – 深い意味を持つ歌 – 詞簡単な言葉で、深い意味 | – 切ない失恋ソング – 泣ける歌 – どんな切ない恋でも、ぴったりな歌がある |
ประโยคที่เราเลือกมาก็คือ どんな切ない恋でも、ぴったりな歌がある เพราะว่ากลุ่มเป้าหมายที่เรากำหนดไว้ตอนแรก ก็มี range อายุค่อนข้างกว้าง อีกทั้งเรื่องราวความรักของแต่ละคนก็น่าจะไม่ได้เหมือนกันไปทั้งหมด เราก็เลยยกจุดขายเรื่องความรักหลายแบบที่อยู่ในเพลง back number ขึ้นมา
4. 磨く
ขั้นตอนสุดท้ายคือการขัดเกลา 1行 ของเราให้โดนใจกลุ่มเป้าหมายและติดหู ฟังแล้วจำได้ไปพร้อม ๆ กัน ขั้นตอนนี้ก็มีเทคนิคอยู่ด้วย นั่นก็คือ…
- ละคำช่วย เปลี่ยนลำดับคำ หรือจบด้วยคำนาม เช่น そうだ京都、行こう。เป็นการละคำช่วย
- ซ้ำคำให้เกิดจังหวะ หรือใช้ศัพท์ 3 คำที่ลงท้ายเสียงเหมือนกัน เช่น うまい やすい はやい
- เล่นกับการใช้ตัวอักษรคันจิ ฮิรางานะ คาตาคานะ จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันแม้เขียนศัพท์คำเดียวกัน เช่นคำว่า 可愛い かわいい カワイイ KAWAII
- ใช้คำที่ไว้ใช้เวลาส่งเสียงเรียกหรือทักทาย เช่น お~いお茶 หรือ さっ、一緒に ที่เรายกมาตอนแรกก็เข้าข่ายอันนี้ค่า
- เทคนิค 対句 (ให้มีเสียงที่คล้ายกันหรือจังหวะคล้าย ๆ กัน) เช่น 一人がつまらない人は、二人でいても退屈です
- ใช้คำเลียนเสียงธรรมชาติจะให้อารมณ์มากกว่า เช่น ใช้ キンキンに冷やしたビール แทน よく冷やしたビール
- ใส่คำว่า プチ、ちょい、たて、生、とろ、癒し、ナチュラル・シンプル、ノン・フリー・レス、ご褒美、たまには、一流・贅沢、大人、〇〇だけ、NO.1、プレミアム・ワンランク上 คำพวกนี้จะทำให้รู้สึกถึงความพิเศษหรือลักษณะเฉพาะตัวของสินค้ารวมถึงบ่งบอกบุคลิกหรือลักษณะของผู้ใช้ที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกดีไปด้วย
ส่วนประโยคที่เราเลือกมา เอามาเกลา ๆ ตบ ๆ ตี ๆ แล้วก็ได้ออกมาว่า
キミだけの恋バナにぴったりな歌
เทคนิคที่เราเลือกมาใช้คือการเติมคำว่า だけ เข้าไปทำให้คนที่ฟังเนี่ยรู้สึกพิเศษ และใช้คำว่า 恋バナ ซึ่งย่อมาจากคำว่า 恋話 ที่แปลว่าเรื่องราวความรัก น่าจะให้อารมณ์ที่รู้สึกว่าวัยรุ่นเข้ากับความเป็น Pop/Rock มากกว่าใช้คันจิทั้งหมด เช่นเดียวกับคำว่า キミ ที่ใช้คาคาคานะแทน
ตอนเรียนเรื่องนี้คือรู้สึกสนุกมาก ส่วนนึงเป็นเพราะเป็นหัวข้อที่เราเสนอไปเองและอีกส่วนคือชอบลักษณะเฉพาะตัวของภาษาญี่ปุ่นที่มีส่วนช่วยให้ประโยคหนึ่งประโยคสร้างอิมแพคได้ คือมันสามารถสร้างเทคนิคได้จากลักษณะของภาษาเลย เช่น การมีตัวอักษร 3 แบบ หรือคำเลียนเสียงธรรมชาติที่มีอยู่เยอะมาก
สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน เอาไว้พบกันใน blog สุดท้ายนะคะ 😉